ยินดีต้อนรับเข้าสู่บล็อกของ นางสาวประภาภรณ์ สายเนตร.

วันอาทิตย์ที่ 25 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2561

บันทึกการเรียนครั้งที่ 6
วันพุธที่ 21 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2561

เนื้อหาการเรียนการสอน

นำเสนอคำคม

นางสาวจีรวรรณ งามขำ




นางสาวมาลินี ทวีพงศ์




นางสาวจิรญา พัวโสภิต





นำเสนอ คุณสมบัติของชื่อผู้นำ








































































โครงสร้างขององค์กรและการจัดระบบบริหารงานสถานพัฒนาเด็กปฐมวัย

การบริหารงานสถานพัฒนาเด็กปฐมวัย
     การบริหารสถานพัฒนาเด็กปฐมวัย มีลักษณะการบริหารเฉพาะตัว โดยที่ต้องคำนึงถึงสิ่งต่อไปนี้
 1. นโยบาย และยุทธศาสตร์ในการพัฒนาประเทศของรัฐบาล
 2. แผนพัฒนาการศึกษาแห่งชาติ
 3. แผนพัฒนาเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ
 4. พระราชบัญญัติการศึกษาแห่งชาติ
 5. หน่วยงานที่เกี่ยวข้อง
 6. ปรัชญา นโยบายและวัตถุประสงค์ของสถานศึกษา
 7. ความต้องการของชุมชน

การจัดประเภท และรูปแบบสถานพัฒนาเด็กปฐมวัยในประเทศไทย
1. การจัดแบ่งตามโครงสร้างการบริหารตามขนาด แบ่งเป็น 3 ขนาด คือ
    1) โครงสร้างบริหารสถานศึกษาปฐมวัยขนาดเล็ก
    2) โครงสร้างบริหารสถานศึกษาปฐมวัยขนาดกลาง
    3) โครงสร้างบริหารสถานศึกษาปฐมวัยขนาดใหญ่





2. การแบ่งตามรูปแบบตามพระราชบัญญัติการศึกษาชาติ
     (พระราชบัญญัติการศึกษาแห่งชาติ พ.ศ. 2542 และที่แก้ไขเพิ่มเติม (ฉบับที่ 2 )พ.ศ. 2545 กล่าวไว้ใน มาตรา 15กำหนดการจัดการศึกษา มี 3 รูปแบบ คือ)
     1. รูปแบบในระบบโรงเรียน
     2. รูปแบบนอกระบบโรงเรียน
     3. รูปแบบตามอัธยาศัย

3. รูปแบบการให้บริการแบบใหม่
     คือ การรวมเด็กที่ผิดปกติและเด็กปกติไว้ด้วยกัน โดยเรียกแบบนี้ว่า “Normalization”



หลักในการบริหารงานสถานพัฒนาเด็กปฐมวัย
1. การบริหารงานวิชาการ
     เป็นการบริหารกิจกรรมทุกชนิดในโรงเรียน ซึ่งเกี่ยวข้องกับการปรับปรุงพัฒนาการสอนผู้เรียนให้ได้ผลดีและมีประสิทธิภาพที่สุด
2. การบริหารงานบุคคลในสถานศึกษาปฐมวัย
     คือ การปฏิบัติการใช้คนให้ทำงาน อย่างมีประสิทธิภาพโดยมีขบวนการต่าง ๆ
3. การบริหารงานธุรการและการเงินในสถานศึกษาปฐมวัย
      - งานธุรการในสถานศึกษา
      - งานการเงินในสถานศึกษาปฐมวัย
      - งานสารบรรณในสถานศึกษาปฐมวัย
      - งานทะเบียนและรายงาน
      - งานรักษาความปลอดภัย
      - งานการเงินและพัสดุ
      - งานพัสดุ
4. การบริหารงานกิจการนักเรียนในสถานศึกษาปฐมวัย 
      คือ การดำเนินงาน เพื่อสนับสนุนการจัดกิจกรรมในโรงเรียนโดยนักเรียนสมัครใจร่วมกิจกรรมเพื่อพัฒนาตนเอง
5. การบริหารสภาพแวดล้อมในสถานศึกษาปฐมวัย
      - การบริหารสภาพแวดล้อมทางกายภาพ
      - การบริหารสภาพแวดล้อมที่เอื้อต่อการจัดกิจกรรมและประสบการณ์

การบริหารสถานพัฒนาเด็กปฐมวัยในยุคปฏิรูป
ความหมาย การบริหารโดยใช้โรงเรียนเป็นฐาน (School Based Management)
     คือ การบริหารโดยกระจายอำนาจทางการศึกษาไปยังสถานศึกษาโดยตรงให้มีอำนาจหน้าที่ความรับผิดชอบและความคล่องตัวในการบริหารจัดการมากที่สุด

หลักการในการบริหารแบบโรงเรียนเป็นฐาน (School Based Management)
     • หลักการกระจายอำนาจ (Decentralization)
     • หลักการมีส่วนร่วม (Participation or Collaboration Involvement)
     • หลักการคืนอำนาจจัดการศึกษาให้ประชาชน (Return Power to People)
     • หลักการบริหารตนเอง (Self - managing)
     • หลักการตรวจสอบและถ่วงดุล (Check and Balance)

รูปแบบโรงเรียนที่ใช้การบริหารแบบโรงเรียนเป็นฐาน
     • ผู้บริหารโรงเรียนเป็นหลัก (Administrative Control School Council )
     • บริหารโดยครูเป็นหลัก (Professional Control Council)
     • การบริหารจัดการโดยชุมชนมีบทบาท (Community Control School Council)
     • ครูและชุมชนมีบทบาทหลัก (Professional Community Control School Council)

สรุปการบริหารโดยใช้โรงเรียนเป็นฐาน ( School-Based Management )
     การบริหารโดยใช้โรงเรียนเป็นฐาน (School-Based Management) เป็นการถ่ายโอนอำนาจจากหน่วยงานไปให้แก่โรงเรียนได้บริหารแบบเบ็ดเสร็จที่โรงเรียนโดยมอบอำนาจการบริหารและจัดการศึกษาให้แก่คณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐานซึ่งประกอบด้วยผู้ปกครอง    

องค์กรแห่งการเรียนรู้
ศาสตร์ทั้ง 5 ขององค์กรแห่งการเรียนรู้ (ปีเตอร์ เอ็ม. เซงเก (Peter M. Senge) )
     • การใฝ่ใจพัฒนาตน (Personal Mastery)
     • รูปแบบของความคิด (Mental Models)
     • วิสัยทัศน์ร่วม (Shared Vision)
     • การเรียนรู้เป็นทีม (Team Learning)
     • การคิดเชิงระบบ (System Thinking)



การบริหารแบบมีส่วนร่วม
สาระสำคัญของการบริหารแบบมีส่วนร่วม
     • การมีส่วนร่วมในการแสดงความคิดเห็น
     • การมีส่วนร่วมช่วยให้เกิดการยอมรับในเป้าหมาย
     • การมีส่วนร่วมช่วยให้เกิดความสำนึกในหน้าที่ความรับผิดชอบ

ผลดีของการบริหารแบบมีส่วนร่วม
     • สร้างสรรค์ให้มีการระดมกำลังจากบุคคลต่าง ๆ
     • สร้างบรรยากาศและพัฒนาประชาธิปไตยในการทำงาน
     • ช่วยให้ลดความขัดแย้งระหว่างผู้บริหารกับผู้ปฏิบัติงาน
     • การบริหารแบบมีส่วนร่วม
     • ผลงานที่เกิดขึ้น
     • สร้างความสมดุลระหว่างฝ่ายบริหารกับฝ่ายปฏิบัติ

ข้อจำกัดของการบริหารแบบมีส่วนร่วม
     • การแสดงความคิดเห็นเกิดข้อขัดแย้งกับฝ่ายบริหาร
     • ก่อให้เกิดกลุ่มอิทธิพล
     • ผู้บริหารกลัวสูญเสียอำนาจ
     • การบริหารงานไม่สามารถใช้กับงานที่เร่งด่วนได้
     • ใช้งบประมาณมาก
     • ความคิดเห็นจากบุคคลภายนอกไม่ได้รับการยอมรับเท่าที่ควร
     • การไม่เข้าใจหน้าที่มักจะทำให้เกิดการก้าวก่ายหน้าที่ซึ่งกันและกัน


การวิเคราะห์เชิงปฏิบัติ
(
SWOT Analysis Workshop)

SWOT คืออะไร
      คือ การวิเคราะห์สำรวจตรวจสอบสภาพภายในองค์กร และสภาพแวดล้อมภายนอก เป็นส่วนหนึ่งของ
กระบวนการวางแผน 
     S : จุดแข็ง
    W : จุดอ่อน
     O : โอกาส
     T : อุปสรรค
     
     แต่สิ่งสำคัญที่ทุกคนต้องไม่มองข้ามไปคือ เรากำลังจะเริ่มต้นของการเปลี่ยนแปลงกลยุทธ์ 
ที่อาจจะทำให้บางคนไม่พอใจจากการสำรวจ
     จุดอ่อน  : W   จุดแข็ง : S ภายในองค์กร และ โอกาส  : O   อุปสรรค : T ภายนอก

SWOT ให้คำตอบอะไรกับเรา
     1. อะไรคือเรื่องหลักที่เราต้องเผชิญในวันนี้
     2. เราจะจัดการกับเรื่องหลักนี้อย่างไร
    ข้อสังเกต
    * บางคนใช้ SWOT เพื่อตั้งคำถามอย่างเดียว
    * บางคนใช้เหตุผลของ SWOT มองข้ามปัญหาไป

เรามาทำความคุ้นเคยกับ SWOT ด้วยกัน
  • ถ้าคุณมีภารกิจ ที่จะต้องให้บริการที่มีภาพต่อชุมชน ตรงต่อเวลา ข้อมูลน่าเชื่อถือ และมีภาพพจน์
    ที่ดี
  • มีการกำหนดหน้าที่ และภารกิจให้กับทีมงานทุกคน
  • ภารกิจบรรลุเป้าหมาย เพื่อตอบสนองความต้องการของชุมชน ในการเพิ่มมูลค่า(Value Creativity) และคุณค่าความเป็นอยู่ในชุมชนดีขึ้น




จุดแข็ง : Strengths
ตัวอย่าง
     - งานที่เราถนัด ทำแล้วมีความสุข
     - งานที่โดดเด่นที่ชุมชนชื่นชอบ
     - อะไรที่ชุมชนมีความต้องการให้เราทำซ้ำอีก
     - ทรัพยากร และเครื่องมือที่เรามีความพร้อม


จุดอ่อน : Weaknesses
ตัวอย่าง
     - งานที่เราไม่สบายใจที่จะทำ
     - ความต้องการที่จะรับความช่วยเหลือจากเพื่อนร่วมงาน หรือทักษะบางอย่างที่เรายังไม่มั่นใจ
     - ขาดทรัพยากรในการทำงานให้บรรลุเป้าหมาย
หมายเหตุ
     1. บางทีจุดอ่อนของเรามีความเชื่อมโยงกับจุดแข็ง
     2. ยกตัวอย่าง....
         นายแดงดี สีใส อ่านหนังสือไม่ออก แต่มีความชำนาญในการสาธิตการกรีดยางพารา

เราจะรู้ได้อย่างไรว่าการวิเคราะห์ประเมินภายในองค์กรสมบูรณ์ครบถ้วน
     ด้วยการมองสภาพแวดล้อมภายนอก แล้วพิจารณาว่า องค์กรของเรามีโอกาสประสบความสำเร็จ จากแผนโครงการพัฒนา ด้วยวิธีการทำงานใหม่นี้หรือไม่


เอาละ! ตอนนี้มาดูสิว่าอะไรน่าจะเป็น
อุปสรรค : Threats

หมายเหตุ
     1. การมองถึงอุปสรรค T ไม่ใช่ความคิดที่ไม่มีข้อพิสูจน์
     2. ใช่ว่าเรามองจะโลกในแง่ร้าย มากกว่าโอกาส เพราะว่าเราต้องใช้สรรพกำลังที่มีทำให้งานประสมความสำเร็จ โดยอาศัยปัจจัยด้านอื่นๆอีกสามด้าน คือ SWO
อุปสรรค : Threats
ตัวอย่าง
     - ใครคือคู่แข่งขันที่ทำได้ดีกว่าเรา
     - ถ้าสภาพแวดล้อมเปลี่ยนจะทำให้แผนโครงการเรามีปัญหา
     - ความขัดข้องที่จะเกิดจากเราเอง

สุดท้ายเรามาดู 
โอกาส : Opportunities

โอกาส : Opportunities
ตัวอย่าง
     - โอกาสที่กำลังจะเกิดขึ้น ที่จะทำให้เราประสบความสำเร็จ
     - มีเครื่องมือใหม่ที่ได้รับการสนับสนุน
     - มีช่องว่างทางการตลาดที่เรามองเห็น
     - เครือข่ายมีศักยภาพทำให้งานสำเร็จง่ายขึ้น
หมายเหตุ
     โอกาสควรที่จะพิจารณาทั้งในระดับมหภาค(ระดับประเทศ ระหว่างประเทศ) และระดับจุลภาค
(ระดับครัวเรียน/ระดับหมู่บ้าน/ระดับตำบล)




เราลองให้ความชัดเจนในหัวข้อต่อไปนี้
  • ความหมายและวัตถุประสงค์ของการทำ SWOT
  • สามารถแก้ปัญหาพวกพ้องในการทำงานได้หรือไม่
  • มีรูปแบบในการเปลี่ยนแปลงที่น่าเชื่อถือหรือไม่
  • แนวทางกลยุทธ์สามารถสร้างการเปลี่ยนแปลงให้องค์กรของเราได้หรือไม่

ความรู้ที่ได้รับ / การนำไปประยุกต์ใช้
     สามารถนำความรู้ที่ได้รับในวันนี้เกี่ยวกับหลักการในการบริหารสถานศึกษาไปพัฒนาในสถานศึกษาโรงเรียนของเด็กปฐมวัยได้ และยังสามารถนำข้อคิดของคำคมไปใช้ในชีวิตประจำวันและอนาคต


การประเมิน / Evaluation

     ประเมินตนเอง    เข้าเรียนตรงเวลา แต่งกายเรียบร้อย ตั้งใจเรียน
     ประเมินเพื่อน      เพื่อนเข้าเรียนตรงเวลา ตั้งใจเรียน
     ประเมินอาจารย์   อาจารย์เข้าสอนตรงเวลา แต่งกายเรียบร้อย เตรียมเนื้อหาการสอนมาได้ดี 



ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น